Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

fomo,jomo

FOMO JOMO เลิกจับมือถือแล้วมาจับมือเรามั้ย

ปัจจุบันนี้ โทรศัพท์ถือว่าเป็นอวัยวะหนึ่งของทุกคนไปแล้ว ไม่ว่าจะทำกิจกรรมใดๆในชีวิตประจำวันก็มักจะต้องใช้โทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา  แต่ก็ยังคนมีคนบางกลุ่มที่ชอบชีวิตแบบที่ไม่มีเสียงรบกวนหรือสิ่งเร้าจากโทรศัพท์ ซึ่งเราจะมาพูดถึงกลุ่มคนที่ เรียกว่า FOMO และ JOMO และพฤติกรรมเหล่านี้ยังมีผลต่อการวางแผนการตลาดอีกด้วยจะเป็นยังไง ดูกันได้เลยค่า….

FOMO คือ?

FOMO มาจากคำว่า “Fear of Missing Out” หมายถึง อาการกลัวที่จะตกกระแส กลัวพลาดข่าวสารที่กำลังเป็นประเด็นสำคัญในสื่อโซเชียล โดยปกติคนที่มีอาการ FOMO จะติดโทรศัพท์มือถือเพราะต้องคอยเช็คข่าวสารตลอดเวลา และชอบอัปเดตชีวิตตัวเองผ่านโซเชียลมีเดียอยู่เสมอ

FOMO อาการเป็นไงไหนเล่าาา

1.โทรศัพท์คืออวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย ติดตามข่าวมีสาระ บันเทิง หรือดราม่าครบจบในที่เดียวอยู่ตลอด ทำให้โทรศัพท์อยู่ติดตัวคู่กายคู่ใจเสมอ

2.อัพเดตชีวิตผ่านช่องทางต่างๆ หรือถ้าเอาให้เห็นภาพก็คือ อัพสตอรี่ไอจีจนเป็นจุดไข่ปลาเลยทีเดียว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนทำอะไร ไปเที่ยว กินข้าว ดูหนัง อัพเดตสถานะหัวใจ ทุกคนสามารถรู้ได้โดยไม่ต้องสืบเลย

ทำการตลาดกับชาว FOMO ยังไงได้บ้าง ?

Concept ก็คือ รวดเร็ว ทันกระแส และต้องให้มีส่วนร่วม 

ความรวดเร็ว – พฤติกรรมของกลุ่มนี้ชอบเสพข่าวสารที่รวดเร็ว การทำโปรโมชั่นสินค้าที่มีระยะเวลาจำกัด ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้รีบกดซื้อโดยอาจจะไม่ทันได้คิดด้วยซ้ำ เพราะความกลัวที่จะพลาดโปรโมชั่นนี้ไป เช่นซื้อภายใน 1 ชั่วโมง หรือตอนนี้เท่านั้น

Real time marketing  –  พฤติกรรมของกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับการตลาดที่ตามเทรนด์เป็นอย่างมาก ดังนั้นการทำการตลาดที่มีการปรับตามเทรนด์ใหม่ๆมีแนวโน้มทำให้กลุ่มคนเหล่านี้แชร์คอนเทนต์และส่งต่อกันอย่างรวดเร็ว

JOMO คือ?

JOMO มาจากคำว่า “Joy of Missing Out” หมายถึง การมีความสุขโดยที่ไม่ต้องใช้ชีวิตเกาะติดกระแสสังคม โดยปกติคนที่มีอาการ JOMO จะไม่ค่อยเล่นโซเชียลมีเดีย แต่ใช้เวลาไปกับกิจกรรมรอบตัว เช่น การออกไปเที่ยว อ่านหนังสือ ปลูกต้นไม้ เป็นต้น

พฤติกรรมของกลุ่ม JOMO อาการมันเป็นยังไงนะ 

  • เพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตแบบไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับโทรศัพท์หรือใช้สมาร์ทโฟน เช่น โฟกัสกับการอ่านหนังสือ การปลูกต้นไม้ การออกกำลังกายเป็นต้น ซึ่งก็ทำให้บางทีอาจจะโฟกัสกับกิจกรรมต่างๆ จึงทำให้การตอบแชทหรือตอบข้อความช้า มากไปกว่านั้นกลุ่มคนเหล่านี้ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวที่จะตามข่าวหรือเทรนด์ใหม่ๆที่เกิดขึ้นไม่ทันด้วย

ทำการตลาดกับชาว JOMO ยังไงได้บ้าง ?

Native ads – การทำคอนเทนต์ที่เน้นให้ความรู้แต่มีการ Tie-in ถึงแบรนด์สินค้านั้นๆไปแบบแนบเนียน เช่น วิธีการยิงโฆษณา facebook,google ให้ปังๆยังไง และมีการแนบชื่อบริษัท Foretodayให้ติดต่อปรึกษาได้ในบทส่งท้ายเป็นต้น

Podcast – ชาว JOMO ชอบที่จะทำกิจกรรมภายนอกที่ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับโทรศัพท์ก็จริง แต่การฟัง Podcast นั้นเป็นการเปิดฟังโดยที่ยังสามารถทำกิจกรรมอื่นๆไปด้วยไม่ได้โฟกัสที่แค่โทรศัพท์ ดังนั้นสื่อช่องทางนี้ก็ยังเป็นช่องทางที่เข้าถึงชาว JOMOได้เช่นกัน

สรุป

FOMO และ JOMO ก็เป็นรูปแบบพฤติกรรมหนึ่งของคนในยุคสมัยนี้ ซึ่งก็เป็นพฤติกรรมที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน และการเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าก็อาจจะทำให้มองเห็นภาพลูกค้าของเราได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้การวางแผนการตลาดหรือคอนเทนต์ที่จะนำส่งไปหากลุ่มลูกค้าของเราได้ตรงกลุ่มและเหมาะสมมากขึ้น

“วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า จะได้มาต้องเริ่มที่วันนี้”

“A better tomorrow starts today”

Line@: bit.ly/ForeToday

FB Chat: http://m.me/foretoday

“A better tomorrow starts today “

Digital Agency Digital Marketing digitalagency foretoday marketing

อ้างอิง

https://www.fillgoods.co/online-biz/shop-orders-know-consumer-jomo-fomo-marketing-segment/