ผมเชื่อว่าหลายๆคนที่เริ่มทําการตลาดออนไลน์ใน Facebook ก็มักจะมีคําถามมากมายกับปุ่มหลายๆ ปุ่มบน Facebook Ads ซึ่งในหนึ่งใน Function ที่ง่ายและมีประโยชน์มาก ซึ่งหลายๆคนยังไม่รู้ก็คือการตั้ง Bid Strategy เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาทําความรู้จัก Facebook Bid strategy เเต่ละประเภทว่ามันทํางานยังไง และเราจะให้วิธีใช้ที่เราใช้กันจริงๆและทริคเล็กๆน้อยในการใช้งาน
Facebook Bidding Strategies คืออะไร
หลักๆเลยมันคือตัวช่วยที่มากําหนดวิธีการและจํานวนเงินที่ Facebook จะนําโฆษณาของคุณขึ้นไปประมูลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นก่อนอื่นเรามาทําความรู้จัก Bid strategy แบบต่างๆและวิธีการใช้งานกันครับ
- Lowest Cost
กลยุทธ์การ bid เพื่อให้ต้นทุนของคุณต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และมีประสิทธิภาพมากที่สุดในงบประมาณที่กำหนดไว้
Lowest cost เหมาะสำหรับการเริ่มรันโฆษณาผ่าน facebook หรือการรันโฆษณาที่ไม่ได้กำหนดเป้าหมาย (KPI) และไม่ได้เข้มงวดกับค่าใช้จ่ายต่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
นอกจากนี้ Lowest cap ทำให้คุณรู้ถึงค่าใช้จ่ายตามมาตรฐานต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น และเพื่อสังเกตุการณ์ในการคอยปรับ bid ในรูปแบบอื่นๆ ต่อไปอีกด้วย เมื่อได้ค่าเฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อผลลัพธ์แล้ว ลองปรับลด bid ด้วยการ bid แบบอื่นๆ ก็ถือเป็นกลยุทธ์ที่นักการตลาดออนไลน์ใช้เช่นกัน
- Cost Cap
กลยุทธ์การ bid แบบควบคุมต้นทุนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามคุณที่ต้องการ
การใช้ Cost cap เป็นการควบคุมต้นทุนของคุณเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ หรือ Cost per action (CPA) ตามที่คุณกำหนดเอาไว้ โดยไม่คำนึงถึงปัจจัยการตลาดอื่นๆ การทำงานของ Cost cap จะใช้เงินของคุณค่อนข้างน้อย และมีระยะการเรียนรู้ของระบบนาน (มากกว่า 1 อาทิตย์ขึ้นไป) เมื่อเทียบกับการ Bid แบบอื่นๆ
ระวังอย่างหนึ่งคือ ในช่วงระยะเวลาเรียนรู้ของระบบ ค่าใช้จ่ายต่อผลลัพธ์ (CPA) มีแนวโน้มว่าจะเกินกว่าที่คุณกำหนดเอาไว้ และอาจมีความผันผวนของค่าใช้จ่ายหลังหลุดจากระยะเวลาเรียนรู้
ช่วงแรกแนะนำให้ตั้ง CPA สูงๆ ไว้ก่อน คอยติดตามผลเป็นระยะๆ เพราะหลังจากระบบสามารถเรียนรู้และหากลุ่มเป้าหมายได้แล้ว ค่าใช้จ่ายต่อผลลัพธ์ก็จะมีประสิทธิภาพแล้วเสถียรขึ้น จากนั้นค่อยปรับลดลงตามเป้าที่กำหนดไว้
- Bid Cap
กลยุทธ์การตั้งราคา Bidding เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายต่อผลลัพธ์เอง
เป็นกลยุทธ์การตั้ง Bid ที่ใช้ได้ยากที่สุด แต่มีข้อดีเลยคือ ค่าใช้จ่ายต่อผลลัพธ์ (CPA) จะคงที่ และสามารถควบคุมตามกลุ่มเป้าหมายและงบประมาณที่ตั้งไว้ ซึ่งตามที่เราได้แนะนำคือลองใช้ Lowest Cost เพื่อให้รู้ค่าใช้จ่ายก่อน แล้วค่อยปรับมาเป็น Bid Cap
หรือหากต้องการจะใช้ Bid Cap เลย ก็แนะนําให้ตั้ง CPA เป็นอย่างน้อย 3-5 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อผลลัพธ์ก่อน คอยควบคุมผลลัพธ์ แล้วค่อยปรับลดลงมาเรื่อยๆ
แต่ก็มีข้อแม้สำหรับกลยุทธ์การ Bid นี้เพราะสามารถใช้ได้กับวัตถุประสงค์เหล่านี้เท่านั้น
- App Installs
- Conversions
- Lead Generation
- Catalog Sales
- Messenger
การใช้กลยุทธ์การ Bid เมื่อเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่าย
สรุป
สิ่งที่สําคัญมากสําหรับ Bid Strategy ก็คือเราจะต้องรู้ว่าเราควรจะใช้อันไหนที่เหมาะกับเเคมเปญของคุณและตัว KPI ที่คุณต้องการคืออะไร คําแนะนําสุดท้ายของผมก็คือเราจะต้องคอยมาทดลองและตามประสิทธิภาพของเเคมเปญนั้นเพื่อที่เราจะสามารถปรัปตามไปได้
หวังว่าผู้อ่านจะได้รับประโยชน์จากบทความนี้และนําไปปรัปใช้จริงในโฆษณาของคุณให้ประสิทธิภาพดีขึ้น
สําหรับผู้อ่านท่านใดสนใจจะได้ความรู้ใหม่ๆเช่นนี้ก็สามารถติดตามเราที่ช่องทางต่างๆ ตามนี้ได้เลย หรือถ้าสงสัยหรือสนใจที่จะทําโฆษณากับเราก็สามารถทักมาสอบถามทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราได้ตามช่องทางด้านล้างนี้เลย
Line@: bit.ly/ForeToday
FB Chat: http://m.me/foretoday
“A better tomorrow starts today “
#Ad #Facebook #Bid Strategy