Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

เขียนบทความให้ปังด้วย “Search intent”

Search intent คือการเขียนเนื้อหาหรือบทความให้เนื้อหาสอดคล้องกับจุดประสงค์ของการค้นหา ซึ่งการเขียนคอนเทนต์ให้ดีนั้น เนื้อหาน่าสนใจเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะ Google นั้นต้องการให้คนสามารถหาข้อมูลหรือสิ่งที่ค้นหานั้นได้เจอตรงตามที่เค้าต้องการและรวดเร็วมากที่สุด

Search intent นั้นอาจใช้คำว่า User intent แทนก็ได้ ซึ่ง Search intent นั้นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการทำ SEO สำหรับบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Search intent ว่ามีกี่ประเภทและการประยุกต์ใช้ เพื่อทำให้คอนเทนต์ของเราอยู่ในอันดับที่ดียิ่งขึ้น!!

ประเภทของ Search intent

Search intent สามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภทหลักๆดังนี้

1. การค้นหาเพื่อหาข้อมูลหรือข่าวสาร (Informational) การเสิร์ชเพื่อหาข้อมูลหรือเพื่อหาคำตอบสำหรับคำถามง่ายๆและรวดเร็ว โดยคำค้นหาคีย์เวิร์ดจะเป็นแนวคำถามกว้างๆ และไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นประโยคคำถามเสมอไป ซึ่งถือว่าเป็นการค้นหาบน google ที่มากที่สุด ตัวอย่างเช่น SEO คืออะไร และ Customer ID คืออะไร เป็นต้น

ตัวอย่าง Search intent (Information)

2. การค้นหาเพื่อหาทางลัดในการเข้าถึง (Navigational) การเสิร์ชหาเว็บไซต์ที่เรารู้จักอยู่แล้วหรือเว็บไซต์ที่เฉพาะเจาะจง แต่เราอาจจะจำ URL ไม่ได้ทั้งหมด ซึ่งการพิมพ์หาบน Google อาจจะค้นเจอได้ง่ายและรวดเร็วกว่าพิมพ์บน Address bar ตัวอย่างเช่น Netflix login และ Wongnai travel เป็นต้น

ตัวอย่าง Search intent (Navigational)

3. การค้นหาตัวเลือกเพื่อการตัดสินใจ (Commercial investigation) การค้นหาเพื่อเป็นตัวเลือกที่จะทำการซื้อในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการ พูดง่ายๆ คือมีสินค้าที่ต้องการอยู่แล้ว แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกอันไหนดี เลยต้องการข้อมูลเพื่อนำไปเปรียบเทียบและทำการตัดสินใจนั่นเอง ตัวอย่างเช่น รีวิวโฟมล้างหน้า และ SEO vs SEM เป็นต้น

ตัวอย่าง Search intent (Commercial)

4. การค้นหาเพื่อตัดสินใจซื้อ (Transactional) การค้นหาประเภทนี้คือผู้เสิร์ชพร้อมที่จะซื้อหรือใช้บริการสิ่งๆนั้นหรือพร้อมที่จะมี action บางอย่าง รวมไปถึงการ โทรหาร้านค้าหรือแม้กระทั่งเดินทางไปที่ร้าน ซึ่งส่วนใหญ่พวกเขารู้อยู่แล้วว่าต้องการซื้ออะไร และกำลังมองหาสถานที่ที่จะซื้อจากการค้นหา ตัวอย่างเช่น ซื้อ Adidas และ ซื้อ Ahrefs  เป็นต้น

ตัวอย่าง Search intent (Transactional)

Search intent กับการประยุกต์ใช้ในการเขียนคอนเทนต์ให้ถูกหลัก SEO

การเขียนคอนเทนต์ให้ผู้ใช้งานนั้นสามารถเจอสิ่งที่ต้องการได้นั้นเราต้องเริ่มต้นจากการเข้าใจถึงเจตนาของผู้ใช้งานก่อนว่าต้องการค้นหาข้อมูลอะไรใน Google ก่อน ซึ่ง Search intent หรือ User Intent นั้นสามารถช่วยให้ผู้เขียนบทความ สามารถแบ่งประเภทของเจตนาของผู้ใช้งาน googleได้ ทำให้ผู้เขียนบทความสามารถเขียนบทความได้ถูกประเภท ตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้ค้นหานอกจากนี้ยังสามารถทำให้บทความของเราติดหน้าค้นหาในหมวดหมู่ที่เราต้องการได้ โดยผู้เขียนสามารถที่จะปรับคีย์เวิร์ดให้ตรงกับเจตนาของผู้ใช้งาน แต่อย่างไรก็ตามบทความของเราต้องมีความน่าสนใจและมีเนื้อหามากพอที่สามารถตอบปัญหาหรือข้อสงสัยให้กับผู้ใช้งานได้เช่นกัน

สรุป

Search intent เปรียบเสมือนจุดประสงค์ในการค้นหาหรือที่เรียกง่ายๆคือการที่ผู้คนเข้ามาค้นหาคำใน google ว่าต้องการค้นหาไปเพื่ออะไร เช่น บางคนอยากหาข้อมูลเพิ่มเติมหรือบางคนอยากเปรียบเทียบสินค้าบางอย่าง เป็นต้น เพราะฉะนั้นการเขียนคอนเทนต์ให้ถูกหลัก SEO ที่ดีคือต้องเข้าใจเจตนาของผู้ใช้งานจึงสามารถเขียนสร้างคอนเทนต์ออกมาตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

“A better tomorrow starts today”

Line@: bit.ly/ForeToday

FB Chat: http://m.me/foretoday

“A better tomorrow starts today “

#Foretoday #digitalagency #marketing #Ecommerce #search intent

Search Intent คือ

u003cmeta charset=u0022utf-8u0022/u003eการเขียนเนื้อหาหรือบทความให้เนื้อหาสอดคล้องกับจุดประสงค์ของการค้นหา ซึ่งการเขียนคอนเทนต์ให้ดีนั้น เนื้อหาน่าสนใจเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะ Google นั้นต้องการให้คนสามารถหาข้อมูลหรือสิ่งที่ค้นหานั้นได้เจอตรงตามที่เค้าต้องการและรวดเร็วมากที่สุด

Search Intent มีกี่ประเภท

มีทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่u003cbr/u003e1. การค้นหาเพื่อหาข้อมูลหรือข่าวสาร (Informational) u003cbr/u003eu003cmeta charset=u0022utf-8u0022/u003e2. การค้นหาเพื่อหาทางลัดในการเข้าถึง (Navigational) u003cbr/u003e3. การค้นหาตัวเลือกเพื่อการตัดสินใจ (Commercial investigation)u003cbr/u003eu003cmeta charset=u0022utf-8u0022/u003e4. การค้นหาเพื่อตัดสินใจซื้อ (Transactional)u003cbr/u003e